งานวิจัยสารสกัดเบญกานี ของนักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ ให้สิทธิทรัพย์สินทางปัญญาต่อยอดประโยชน์ทางเภสัชกรรม

SHARE
TWEEET
EMAIL

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมลงนามในสัญญาอนุญาตใช้สิทธิในผลงานทรัพย์สินทางปัญญา แก่ บริษัท เบญญา เมดิคอล อินโนเวชั่นส์ จำกัด จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ คำขออนุสิทธิบัตรตามชื่อการประดิษฐ์ “องค์ประกอบทางเภสัชกรรมสำหรับลดจำนวนเชื้อก่อเกิดโรคในแผลติดเชื้อ และสมานแผลที่มีสารสกัดจากเบญกานีเป็นองค์ประกอบ” และ คำขอสิทธิบัตรตามชื่อการประดิษฐ์ “กระบวนการสกัดสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากเบญกานี (Quercus infectorial)” โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อาจารย์วรสันติ์ โสภณ รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิรัช ทวีปรีดา ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ ศาสตราจารย์ ดร.ศุภยางค์ วรวุฒิคุณชัย นักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. และ นายศิวพงศ์ เลื่อนราม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบญญา เมดิคอล อินโนเวชั่นส์ จำกัด เข้าร่วมในพิธีลงนาม ณ อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 64

โดยผลงานทรัพย์สินทางปัญญาดังกล่าว เป็นของ ศาสตราจารย์ ดร.ศุภยางค์ วรวุฒิคุณชัย และคณะ จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภายใต้การสนับสนุนจาก สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก.

ศาสตราจารย์ ดร.ศุภยางค์ วรวุฒิคุณชัย กล่าวว่า จากการศึกษาถึงสรรพคุณของเบญกานี พบว่า มีฤทธิ์ในการต้านแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ รวมทั้งเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) จึงสนับสนุนทุนวิจัย สมุนไพรปูดเบญกานีในรูปแบบยาเตรียมภายนอกสำหรับรักษาแผลติดเชื้อเรื้อรังในผู้ป่วยเบาหวาน

“ทุกวันนี้จำนวนคนเป็นโรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ถ้าผู้ป่วยเกิดบาดแผล จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนเรื้อรัง แผลเกิดการติดเชื้อ การรักษานอกจากต้องใช้ระยะเวลานานผู้ป่วยยังเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ทั้งนี้ น้ำยาล้างแผลจากปูดเบญกานี ใช้ระยะเวลาแค่ 7 วัน นอกจากจะช่วยทำให้แผลแห้งแล้ว แผลยังสมานตัวได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานไม่ต้องทรมานเจ็บปวดเป็นแผลเรื้อรังกันอีกต่อไป” ศาสตราจารย์ ดร.ศุภยางค์ กล่าว

แผลเรื้อรังในผู้ป่วยเบาหวาน

สำหรับกระบวนการผลิตเป็นน้ำยาล้างแผล จะเริ่มจากนำปูดเบญกานีแก่จัดล้างให้สะอาด อบแห้งในอุณหภูมิ 60-75 องศาเซลเซียส บดละเอียด เติมเอทานอล 95% ให้ท่วม ทิ้งไว้ 7 วัน นำปูดเบญกานีไประเหยแห้ง 40-60 องศาเซลเซียส กระทั่งเป็นผงๆ จากนั้นนำมาละลายด้วยโพลีเอธิลีน ไกลคอล-400 (polyethylene glycol) ปริมาตร 25 มล. ผสมด้วยโพรพิลีน ไกลคอล (propylene glycol)

ปูดเบญกานี ช่วยทำให้แผลแห้งเร็ว

เติมสารกันบูด (uniphen P-23) ปริมาตร 20 มล. เอทานอล 95% ปริมาณ 5 มล. ทวีน (tween 60) 3 มล. และ tween 20 จำนวน 2 มล. เติมน้ำกลั่น 100 มล. คนเบาๆกระทั่งเป็นเนื้อเดียวกัน นำไปทดสอบฤทธิ์ในสัตว์ทดลอง ก่อนนำไปทดสอบกับผู้ป่วยอาสาสมัครใน ศูนย์แพทย์ชุมชนเทศบาลตำบลพะตง, รพ.คลองหอยโข่ง, รพ.ชุมชนหาดใหญ่ อ.พะวง และ อ.นาทวี จ.สงขลา ระยะเวลาแค่ 7 วัน น้ำยาล้างแผลจากปูดเบญกานี นอกจากจะช่วยทำให้แผลแห้งแล้ว แผลยังสมานตัวได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานไม่ต้องทรมานเจ็บปวดเป็นแผลเรื้อรังกันอีกต่อไป

ขอขอบคุณภาพและเนื้อหาข่าวจากทีมประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

SHARE THIS STORY
SHARE
TWEEET
EMAIL

RELATED STORIES